การพัฒนาการผลิตผักอินทรีย์บนพื้นฐานของการปลูกเชิงระบบบนพื้นที่จำกัด = development of organic vegetable production based on multiple cropping systems in limited space / Rawat Chindachia...[et al.]
ผู้แต่งร่วม: Chindachia, Rewat
| Doungsa, Wisen | Kavilavas, Prayut | Keawdoung, Montree | Niwasprakit, Cholticha | Panyadee, Suwadee | Tanpanich, Sayan | Wongsusjanan, Surasit | แก้วดวง , มนตรี | พงษ์ศักดิ์ แก้วศรี | ประยุทธ กาวิละเวส | วิเซ็น ดวงสา | สายันต์ ตันพานิช | ชลธิชา นิวาสประกฤต | สุวดี ปัญญาดี | สุรสิทธิ์ วงษ์สัจจานันท์ | Thailand Institute of Scientific and Technological Research
Language: Thai ชื่อชุด: Res. Proj. no. 53-02, Sub. Proj. no. 6 ; Rep. no. 1 (Final report)ข้อมูลการพิมพ์: Bangkok : Thailand Institute of Scientific and Technological Research, 2015 รายละเอียดตัวเล่ม: ค, 20 p. : tables ; 30 cm.ชื่อเรื่องอื่นๆ: การพัฒนาการผลิตผักอินทรีย์บนพื้นฐานของการปลูกเชิงระบบบนพื้นที่จำกัดหัวเรื่อง: Organic agriculture | Organic vegetables | Vegetablesสารสนเทศออนไลน์: Click here to access cover | Click here to access full-text สาระสังเขป: Development of organic vegetable production based on multiple cropping systems in limited space was conducted on any types of fertilizer application in relay, allay, double, and triple or multi-storey cropping systems and even also the use of artificial light source when insufficient. The yield obtained from organic vegetable production likely to decrease when compared to synthesized fertilizer application in the early step of planting especially in kale, parsley, and Chinese mustard green. Therefore, a sudden change of cultivation method to organic production could possibly cause problems of yield decrease and profit loss. The relay cropping system allowed the production with no need of pesticide and a farmer could earn an income of 22,312 baths/rai/month. The yield of Chinese mustard green was increased when using an allay cropping system with yard-long bean even though no organic fertilizer was applied. Meanwhile, yield of yard-long bean was slightly increased : it indicated that the amount of organic fertilizer applied should be increased. The double cropping system gave the yield from of two vegetables in a single time and it was likely to increase. In the first year, the yields of basil and cockroach berry were increased from 1,037.47 to 2,558.83 kg and 3,039 to 3,959.35 kg, respectively in the fourth year. The triple or multi-storey cropping system gave the main income from planting a dominant tree with other two plants. In this study, guava trees were used as a dominant plant while the other two plants were climbing wattle and holy basil. Notably, income from two subordinate plants was higher than from guava. The yield of lettuce was increased when continuous lighting was provided during the day time and artificial light LED at night time. This method could reduce electricity cost when compared to using fluorescence. Therefore, organic vegetable productions can be done in various systems depending on crop selection and market demands. Notably, any crop selected in the system should not be antagonistic to each other, for example, such as too much shading. Hence, the organic vegetable production can enhance the return on investment and decrease injury from pathogens and insect pests much more than a single crop continuously.สาระสังเขป: โครงการการพัฒนาการผลิตผักอินทรีย์บนพื้นฐานของการปลูกเชิงระบบบนพื้นที่จำกัดเป็นการศึกษาการผลิตผักอินทรีย์เปรียบเทียบกับการใส่ปุ๋ยรูปแบบต่างๆ ในระบบการปลูกพืชหมุนเวียน, ระบบการปลูกผักอินทรีย์แบบเหลื่อมเวลา, ระบบการปลูกผักอินทรีย์แบบสลับกับพืชตระกูลถั่ว, ระบบการปลูกผักอินทรีย์แบบ 2 ชนิด พร้อมกัน, ระบบการปลูกผักอินทรีย์แบบ 3 ชนิด พร้อมกัน หรือมากกว่า และศึกษาการใช้แสงจากแหล่งกำเนิดที่ไม่ได้จากธรรมชาติ สำหรับผลิตผักในพื้นที่จำกัดและมีแสงน้อย การปลูกผักอินทรีย์มีแนวโน้มให้ผลผลิตต่ำกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีในช่วงแรกของการผลิต โดยจากการศึกษา พบว่า การใช้ปุ๋ยเคมีให้ผลผลิตคะน้า, ผักชี และกวางตุ้งที่ปลูกต่อเนื่องกันมากกว่าปุ๋ยเคมี ดังนั้น การปรับเปลี่ยนเป็นพืชอินทรีย์อย่างทันทีจะประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำและขาดทุนได้ การปลูกแบบเหลื่อมเวลากันสามารถผลิตพืชผักในระบบเกษตรอินทรีย์ โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลง และสร้างรายได้ให้กับเกษตรเฉลี่ยต่อเดือน 22,312 บาทต่อพื้นที่ 1 ไร่. การปลูกพืชในระบบสลับกับพืชตระกูลถั่ว พบว่า การปลูกกวางตุ้งฮ่องเต้สลับกับถั่วฝักยาวไร้ค้างมีผลทำให้ผลผลิตกวางตุ้งฮ่องเต้เพิ่มขึ้น โดยไม่มีการเพิ่มปริมาณของปุ๋ยอินทรีย์ ส่วนผลผลิตของถั่วฝักยาวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไม่มาก แสดงให้เห็นว่าอาจต้องมีการปรับปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ให้เพียงพอกับผลผลิต การปลูกพืชแบบ Double cropping ทำให้สามารถผลิตผักได้พร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกัน รวมไปถึงมีแนวโน้มของผลผลิตเพิ่มสูงกว่าในปีแรก พบว่า ผลผลิตกะเพราเพิ่มจาก 1,037.46 กิโลกรัม ในปีที่ 1 ไปเป็น 2,558.83 กิโลกรัม ในปีที่ 4 เช่นเดียวกับมะเขือเปราะที่เพิ่มจาก 3,039 กิโลกรัม ในปีที่ 1 ไปเป็น 3,959.35 กิโลกรัม ในปีที่ 4 การปลูกผักอินทรีย์แบบ 3 ชนิด พร้อมกันหรือมากกว่า เป็นการสร้างรายได้จากผักในการ ปลูกร่วมกับพืชหลัก โดย พบว่า จากแปลงตัวอย่างที่ทำการศึกษาเป็นการปลูกฝรั่งเป็นพืชหลัก และแซมด้วยชะอมกับกะเพรา พบว่า รายได้จากชะอมและกะเพรารวมกันมากกว่าฝรั่ง. การปลูกพืชโดยไม่ใช้แสงจากธรรมชาติ พบว่า การให้แสงต่อเนื่องทั้งกลางวัน (แสงธรรมชาติ) และกลางคืนใช้หลอด LED ทำให้ผลผลิตผักกาดหอมมากที่สุดและประหยัดไฟฟ้ากว่าการ ใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นต์ ดังนั้น การผลิตผักอินทรีย์สามารถใช้ได้หลายระบบ ขึ้นอยู่กับการเลือกพืชให้สอดคล้องกับราคาของตลาด และต้องไม่เป็นปฏิปักษ์กัน เช่น การบังร่มเงา ก็จะทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับการผลิตผักในระบบเกษตรอินทรีย์และลดการเสียหายจากโรคและแมลงได้มากกว่าการปลูกผักเพียงชนิดเดียวซ้ำกันตลอด.
| ชนิดของทรัพยากร | Location | Call number | สถานะ | Last seen | Copy No. | บาร์โค้ด |
|---|---|---|---|---|---|---|
|
วว. เทคโนธานี | Available | 2018-08-31 | 1 | RP2015/1562 | |
|
|
วว. เทคโนธานี | Available | 2018-08-31 | 2 | RP2015/1562-2 |
Browsing วว. เทคโนธานี shelves, Shelving location: วว. เทคโนธานี Close shelf browser
Click on an image to view it in the image viewer
There are no comments on this title.