เภสัชโภชนาภัณฑ์เพื่อเสริมสุขภาพจากวิตามินธรรมชาติที่ผลิตจากจุลินทรีย์ = Pharmaceuticals for health from natural vitamins produced from microorganisms / Bundit Fungsin...[et al.] (CONFIDENTIAL)
ผู้แต่งร่วม: Artjariyasripong, Suparp
| Buaban, Wanaluk | Chatanon, Lawan | Fungsin, Bundit | Gradpratum, Samarn | Phoonsiri, Chantara | Srichoiy, Apinun | สมาน เกิดประทุม | ลาวัลย์ ชตานนท์ | วรรณลักษณ์ บัวบาน | บัณฑิต ฝั่งสินธุ์ | ฉันทรา พูนศิริ | อภินันท์ ศรีช่วย | สุภาพ อัจฉริยศรีพงศ์ | Thailand Institute of Scientific and Technological Research
Language: Thai ชื่อชุด: Res. Proj. no. 52-11, Sub Proj. no. 3ข้อมูลการพิมพ์: Bangkok : Thailand Institute of Scientific and Technological Research, 2013 รายละเอียดตัวเล่ม: 54 p. : tables, ill. ; 30 cm.ชื่อเรื่องอื่นๆ: เภสัชโภชนาภัณฑ์เพื่อเสริมสุขภาพจากวิตามินธรรมชาติที่ผลิตจากจุลินทรีย์หัวเรื่อง: Bacillus cereus | Bacteria | Bifidobacterium bifidum | Escherichia coli | Microorganisms | Pharmaceuticals | Pseudomonas aeruginosa | Ribosomal RNA sequencing analysis | Salmonella enteritidis | Salmonella typhimurium | Vitaminsสารสนเทศออนไลน์: Click here to access cover สาระสังเขป: Two hundred and thirty-seven bacterial strains were isolated from 37 samples for screening purpose of vitamin producing strains. Nineteen bacterial strains isolated from breast-fed infant feaces were identified as Bifidobaterium bifidum by using molecular technique of ribosomal RNA sequencing analysis. The representative strains, MM5-6 and MM4-8 were investigated for ability of vitamins production by using HPLC techniques. The results suggested that the bacterial group had ability to produce vitamins as follows, pantothenic acid (B5), pyridoxine (B6), folic acid (B9) and cobalamins (B12). The study on the formulation of production medium for Bifidobaterium bifidum, sucrose was performed as the best carbon sources among 3 kinds of sugar namely, glucose, lactose and sucrose. Meanwhile ammonium sulfate was used as the best nitrogen sources over peptone and yeast extract. The optimal amount of sucrose and ammonium sulfate in the production medium were, 2.0% and 0.5% (w/v) respectively. The study on ability of bacterial survival in gastrointestinal-like circumstance, Bifidobaterium bifidum had ability to survive at the 1.5% (w/v) bile salt and the lowest pH of 3.5. The bacterial strains showed a very good performance on colonization ability to the human intestinal epithelial cell by value of 73.12%. In addition, they had ability of anti-pathogenic strains namely, Bacillus cereus, Escherichia coli, Pseudomonas aeruginosa, Salmonella typhimurium and Salmonella enteritidis. The study on cultivation of bacteria in 5 liter fermenter, the compensate production medium showed good result similar to the commercial medium at the level of cell at 108 cfu/ml. The productions condition for cultivation of bacteria in the fermenter were temperature at 37 oC, agitation of 50 rpm and nonsupply of mixing gas of N2 and CO2. The bacterial cell products were performed by using freeze dry process. The product was conposed of bacterial cell of 1010 cfu/gram. The storage test of the bacterial product revealed that vacuum seal and ordinary seal showed the similar results. In the other hand, the storage temperature showed that keeping at room temperature could maintain the bacterial cell less than 2 months. Meanwhile keeping at cool temperature (3-5 oC) can maintain the bacterial cell more than 3 months.สาระสังเขป: การแยกจุลินทรีย์จากแหล่งตัวอย่าง 37 ตัวอย่าง สามารถแยกจุลินทรีย์ได้ทั้งสิ้น 237 สายพันธุ์ การคัดเลือกจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติสร้างวิตามิน ได้แก่ แบคทีเรียกลุ่มบิฟิโดแบคทีเรียซึ่งแยกได้จากอุจจาระเด็ก จำนวน 19 สายพันธุ์, ซึ่งจัดจำแนกโดยการวิเคราะห์ดีเอ็นเอเป็นสายพันธุ์ Bifidobacterium bifidum, ตรวจสอบการสร้างวิตามินในอาหารเหลว พบว่า จุลินทรีย์ตัวแทนกลุ่มนี้คือ MM5-6 และ MM4-8 มีคุณสมบัติในการสร้างวิตามิน บี 5, บี 6, บี 9 และ บี 12. การศึกษาปัจจัย ที่เหมาะสมต่อการเจริญของจุลินทรีย์ที่สร้างวิตามิน พบว่า องค์ประกอบในอาหารทดแทนอาหารสำเร็จรูป, แหล่งคาร์บอนด์จากน้ำตาล 3 ชนิด คือ กลูโคส, ซูโครส และแล็กโทส, ที่ใช้ร่วมกับหางนมพบว่าน้ำตาลซูโครสให้ผลการเจริญของจุลินทรีย์ดีที่สุด. ปริมาณที่เหมาะสมของน้ำตาลซูโครสที่ใช้ปริมาณ คือ ร้อยละ 2 (w/v) แหล่งไนโตรเจน 3 ชนิด คือ เปปโตน, ยีสต์สกัด และแอมโมเนียมซัลเฟตพบว่า แอมโมเนียมซัลเฟตให้ผลการเจริญของจุลินทรีย์ดีที่สุด, โดยปริมาณที่เหมาะสม คือ ร้อยละ 0.5 (w/v). การศึกษาคุณสมบัติของจุลินทรีย์ต่อสภาวะที่คล้ายกับในระบบทางเดินอาหาร, จุลินทรีย์ในการทนต่อสภาวะที่มีเกลือน้ำดี (Bile salt) พบว่า Bifidobacterium bifidum, มีความสามารถที่เจริญในเกลือน้ำดีได้สูงถึงร้อยละ 1.5 (w/v) และสามารถที่เจริญในสภาวะเป็นกรดที่มีค่าพีเอชถึง 3.5. แบคทีเรียมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะต่อผนังเซลล์ลำไส้ของมนุษย์ได้ดี โดยมีการยึดเกาะร้อยละ 73.21. การศึกษาประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อก่อโรค พบว่า จุลินทรีย์ที่สร้างวิตามิน Bifidobacterium bifidum มีความสามารถในการยับยั้งเชื้อก่อโรค ได้แก่ Bacillus cereus, Escherichia coli, Pseudomonas aeruginosa, Salmonella typhimurium และ Salmonella enteritidis. การศึกษาสภาวะการเลี้ยง Bifidobacterium bifidum ในถังหมักขนาด 5 ลิตร. การใช้อาหารทดแทนเลี้ยง Bifidobacterium bifidum ให้ผลในการเลี้ยงที่ดีใกล้เคียงกับการใช้อาหารสำเร็จรูปโดยมีปริมาณเซลล์ระดับ 108 เซลล์ต่อมิลลิลิตร, สภาวะการเลี้ยงที่เลือกใช้ คือ อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส, ความเร็วรอบการกวน 50 รอบต่อนาที, โดยไม่ให้ก๊าซ N2:CO2 (95:5). ผลิตภัณฑ์ของเซลล์จุลินทรีย์ในรูปผงที่ผ่านการทำ freeze dry มีปริมาณเซลล์ 1010 เซลล์ต่อกรัม พบว่า สภาวะการเก็บแบบบรรจุแบบสุญญากาศและการบรรจุแบบภาชนะปิดแบบธรรมดามีความสามารถในการรักษาเซลล์ของจุลินทรีย์ที่ใกล้เคียงกัน, อุณหภูมิในการเก็บผลิตภัณฑ์ พบว่า การเก็บที่อุณหภูมิห้องนั้นสามารถเก็บผลิตภัณฑ์ได้เพียง 2 เดือน ส่วนการเก็บที่อุณหภูมิตู้เย็น 3-5 องศาเซลเซียส สามารถ เก็บผลิตภัณฑ์ได้นานกว่า 3 เดือน.
ไม่มีรายการทางกายภาพสำหรับระเบียนนี้
There are no comments on this title.