การปลูกผลิตเครืองูเห่าและผักเชียงดาแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อคงคุณภาพและปริมาณสารออกฤทธิ์ = organic cultivation of toddalia asiatica (L.) Lam. and Gymnema inodorum Decne. for maximized quality and active-ingredients / Somsak Chaimongkol, Patcharin Kengkaj
โดย: Chaimongkol, Somsak
ผู้แต่งร่วม: Kengkaj, Patcharin | Thailand Institute of Scientific and Technological Research
Language: Thai ชื่อชุด: Res. Proj. no. 52-05, Sub Proj. no. 2 ; Rep. no. 1 (Final report)ข้อมูลการพิมพ์: Bangkok : Thailand Institute of Scientific and Technological Research, 2556 รายละเอียดตัวเล่ม: ง, 28 p. : tables, ill. ; 30 cm.ชื่อเรื่องอื่นๆ: การปลูกผลิตเครืองูเห่าและผักเชียงดาแบบเกษตรอินทรีย์เพื่อคงคุณภาพและปริมาณสารออกฤทธิ์หัวเรื่อง: Gymnema inodorum | Organic crops | Organic farming | Toddalia asiaticaสารสนเทศออนไลน์: Click here to access cover สาระสังเขป: Seeds of Toddalia asiatica (L.) or Krua Ngoo Hao and Gymnema inodorum Decne. or Pak Chiangda were collected from wilds and communities in northern Thailand. The seeds were germinated and subsequent plantlets were grown with organic farming practices aiming to maintain quality and quantity of their active ingredients. The field trials indicated T. asiatica had extremely low germination and survival rate when growing under crop conditions. Thus, T. asiatica required lots of efforts to further investigation of its propagation and cultural practices. For organic cultivation of G. inodorum, the plantlets obtained from seed propagation were transferred to grow in well drainage fertile land without pesticide application throughout the cultivating period. Nutrition values of marketable parts of G. inodorum were not much different between two phenotypes, narrow leaf and rounded leaf. However, rounded leaf G. inodorum contained 1.2 g 100 g-1 of fat and 130.46 μg 100 g-1 of beta-carotene which were twice as much higher than that of the narrow leaf phenotype (0.52 g 100 g-1 and 92.76 μg 100 g-1 respectively). Furthermore, the narrow leaf G. inodorum provided higher calcium nutrition, 633.90 mg 100 g-1, whereas the rounded leaf plant provided only 395.85 mg 100 g-1.สาระสังเขป: ในการศึกษาการปลูกผลิตเครืองูเห่า (Toddalia asiatica (L.) Lam.) และผักเชียงดา (Gymnema inodorum Decne.) แบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อคงคุณภาพและปริมาณสารออกฤทธิ์ พบว่า การผลิตต้นเครืองูเห่าในสภาพการเกษตรกรรมต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม ด้านการขยายพันธุ์และการเพิ่มอัตราการเจริญเติบโต. สำหรับการปลูกผลิตผักเชียงดาสามารถดำเนินการได้ด้วยต้นกล้าที่เพาะจากเมล็ด ปลูกบนพื้นที่ดินมีการระบายน้ำดี มีความอุดมสมบูรณ์. ผักเชียงดาสามารถให้ผลผลิตอย่างได้เป็นอย่างดี โดยไม่มีการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชใดๆ. ผักเชียงดา แบ่งตามลักษณะใบที่แตกต่างกันได้เป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มใบแบบกลมและกลุ่มใบแบบแหลม ทั้งสองกลุ่มให้ปริมาณแคลอรี, คาร์โบไฮเดรต, โปรตีน, วิตามินซี, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, ฟอสฟอรัส, เหล็กและโซเดียม ใกล้เคียงกัน. แต่กลุ่มใบกลมมีปริมาณไขมันและบีตา-แคโรทีน ที่มีปริมาณ 1.20 กรัม ต่อ 100 กรัม และ 130.46 ไมโครกรัม ต่อ 100 กรัม ตามลำดับ สูงกว่ากลุ่มใบแหลมที่มีปริมาณเท่ากับ 0.52 กรัม ต่อ 100 กรัม และ 92.76 ไมโครกรัม ต่อ100 กรัม ตามลำดับ และในกลุ่มใบแหลมให้ปริมาณแคลเซียม 633.90 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม ซึ่งสูงกว่ากลุ่มใบกลมที่มีปริมาณแคลเซียม 395.85 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม.
| ชนิดของทรัพยากร | Location | Call number | สถานะ | Last seen | Copy No. | บาร์โค้ด |
|---|---|---|---|---|---|---|
|
วว. เทคโนธานี | Available | 2018-08-31 | 1 | RP2013/1500 | |
|
|
วว. เทคโนธานี | Available | 2018-08-31 | 2 | RP2013/1500-2 |
There are no comments on this title.