การพิสูจน์สรรพคุณต้านการกลายพันธุ์และเสี่ยงเป็นมะเร็ง และประเมินความปลอดภัยของสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่จากจุลินทรีย์เป้าหมาย = Determination on anti-mutagenic and carcinogenic risk activity of bioactive ingredients from targeted microbes / Prapaipat Klungsupya [et al.] (CONFIDENTIAL)
โดย: Prapaipat Klungsupya
ผู้แต่งร่วม: Prapaipat Klungsupya | Sarunya Laovitthayanggoon | Supatjaree Ruengsomwong | Tantima Kumlung | Thanchanok Muangman | Nantaporn Pinnak | ประไพภัทร คลังทรัพย์ | ศรัญญา เหล่าวิทยางค์กูร | สุภัจรี เรืองสมวงศ์ | ตันติมา กำลัง | ธัญชนก เมืองมั่น | นันทพร ปิ่นนาค
ข้อมูลการพิมพ์: Pathumthani : Thailand Institute of Scientific and Technological Research, 2025 รายละเอียดตัวเล่ม: 146 p. : tables, ill. ; 30 cmชื่อเรื่องอื่นๆ: รหัสโครงการ : 6618202156หัวเรื่อง: apoptosis | โรคมะเร็ง | สารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่สาระสังเขป: Mutation is a change that occurs on the strands of DNA (deoxyribonucleic acid) which is genetic material in living cells. Most cancers are caused by mutations in the DNA of normal cells in the body. The mutated cells can multiply rapidly and uncontrollably. In order to maintain the normal functioning of the organs and systems, our body has predetermined pattern of cell division and cell death called "apoptosis". Mutations in DNA result in disturbance of apoptosis and that lead to cancer (malignant tumour). “Determination on anti-mutagenic and carcinogenic risk activity of bioactive ingredients from targeted microbes.” is the sixth out of thirteen sub-programmes under the main programme named: “National bio-based innovation in the production of functional active ingredients for health food and beauty industries for the population in the 21st century” implemented during the fiscal year 2021-2023. The objective of this sub-program was to prove the bioactivity of functional active ingredients arising from sub-programmes 1 and 5, which were the upstream research groups of the programme. These two sub-programmes produced functional active ingredients from probiotic microorganisms e.g., bifidobacterium and lactic acid bacteria and functional active compounds from fungi/mushrooms e.g., lingzhi, eryngii, shiitake, respectively. Activity evaluation on 3 main mechanisms including inhibiting the growth and proliferation of various types of cancer cells, inhibition of DNA damage (using micronucleus assay) and induction of cancer cell apoptosis were carried out. The results showed that among six types (Lactobacillus acidophilus TISTR 2734: IM10, Lactobacillus paracasei TISTR 2593: IM2, Bifidobacterium animalis sp. lactis TISTR 2591: B. animalis, Lacticaseibacillus rhamnosus TISTR 2716: L12.2, Lacticaseibacillus paracasei TISTR 2688: KT5, Limosilactobacillus reuteri TISTR 2736: Med42) of bifidobacterium and lactic acid bacteria, L. paracasei TISTR 2688 and L. rhamnosus TISTR 2716 were the most potent. It could inhibit the growth and proliferation of 5 cancer cell lines including liver cancer cells (HepG2), breast cancer cells (MCF-7), cervical cancer cells (Hela), colon cancer cells (Caco-2) and colorectal cancer cells (HCT116). L.paracasei TISTR 2688 and L. rhamnosus TISTR 2716 at 108 CFU/ml concentration exhibited DNA protection against mutagen (mitomycin C, MMC) by 63.73±5.62 and 49.25±4.85%, respectively. At concentration ranging 100 – 500 µg/ml, they could induce apoptosis in HCT116 cells. As for the three mushroom extracts, it was found that lingzhi (containing ganoderic acid 5.284 g/100 g of extract) had the highest potency. It inhibited the growth & proliferation of all 5 types of cancer cells (as mentioned above). Also, it could inhibit DNA damage from MMC by 64.84% and could induce apoptosis in HCT116 cells. Regarding the obtained results, L. paracasei TISTR 2688 and L. rhamnosus TISTR 2716 probiotics and reishi mushroom were selected for being used as functional active ingredients in the development of functional food and beverage formulations undertaken by the sub-programmes (no.10-12) in the downstream research group of this similar main programme. สาระสังเขป: การกลายพันธุ์ (mutation) เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนสายของ deoxyribonucleic acid หรือ DNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรมในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต มะเร็งส่วนใหญ่เกิดจากการกลายพันธุ์ใน DNA ของเซลล์ปกติในร่างกาย โดยเซลล์ที่กลายพันธุ์ไปจะมีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วและควบคุมไม่ได้ ซึ่งตามปกติการแบ่งเซลล์และการตายของเซลล์ตามแบบที่มีการกำหนดไว้แล้วที่เรียกว่า "apoptosis" นั้น จะถูกรักษาไว้ให้อยู่ในสภาวะสมดุลเพื่อคงสภาพของอวัยวะและระบบต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานได้อย่างปกติ แต่เมื่อเกิดการกลายพันธุ์ใน DNA จะส่งผลให้สมดุลดังกล่าวถูกรบกวนและเกิดมะเร็ง (cancer หรือ malignant tumour) ขึ้นในที่สุด “การพิสูจน์สรรพคุณต้านการกลายพันธุ์และเสี่ยงเป็นมะเร็งและประเมินความปลอดภัยของสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่จากจุลินทรีย์เป้าหมาย” นี้ เป็นแผนงานย่อยลำดับที่ 6 ในจำนวน 13 แผนงานย่อยที่อยู่ภายใต้แผนงานหลักคือ “นวัตกรรมอุตสาหกรรมฐานชีวภาพของประเทศในการผลิตสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่สำหรับอุตสาหกรรมอาหารสุขภาพและความงามเพื่อประชากรในศตวรรษที่ 21” ที่ดำเนินการระหว่างปีงบประมาณ 2564-2566 โดยวัตถุประสงค์ของแผนงานย่อยนี้คือ การทดสอบเพื่อพิสูจน์ฤทธิ์ชีวภาพของสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่ที่เกิดจากแผนงานย่อยลำดับที่ 1 และ 5 ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยต้นน้ำของแผนงาน โดยรับผิดชอบในการผลิตสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่จากจุลินทรีย์โพรไบโอติกกลุ่มบิฟิโดแบคทีเรียมและแล็กติกแอสิดแบคทีเรีย และสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่จากรา/เห็ดชนิดเห็ดหูหนู และเห็ดมีครีบ (ได้แก่ เห็ดหลินจือ, เห็ดออรินจิ, เห็ดหอม) ตามลำดับ ผลการทดสอบฤทธิ์ต้านกลายพันธุ์ และฤทธิ์ต้านมะเร็ง ซึ่งตรวจประเมินโดย 3 กลไกหลัก คือ การยับยั้งการเติบโตและเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็งชนิดต่างๆ การยับยั้งความเสียหายและ/หรือการเปลี่ยนแปลงใน DNA ด้วยเทคนิคไมโครนิวเคลียส (micronucleus assay) และการเหนี่ยวนำให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งแบบ apoptosis ผลการทดสอบพบว่า จุลินทรีย์โพรไบโอติกกลุ่มบิฟิโดแบคทีเรียมและแล็กติกแอสิดแบคทีเรีย จำนวน 6 ชนิด (Lactobacillus acidophilus TISTR 2734: IM10, Lactobacillus paracasei TISTR 2593: IM2, Bifidobacterium animalis sp. lactis TISTR 2591: B. animalis, Lacticaseibacillus rhamnosus TISTR 2716: L12.2, Lacticaseibacillus paracasei TISTR 2688: KT5, Limosilactobacillus reuteri TISTR 2736: Med42) พบว่าชนิด L. paracasei TISTR 2688 และ L. rhamnosus TISTR 2716 มีศักยภาพสูงที่สุด สามารถยับยั้งการเติบโตและเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็ง 5 ชนิด คือ เซลล์มะเร็งตับ (HepG2), เซลล์มะเร็งเต้านม (MCF-7), เซลล์มะเร็งปากมดลูก (Hela), เซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Caco-2) และเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (HCT116) โดยที่ความเข้มข้น 108 โคโลนีต่อมิลลิลิตร สามารถปกป้องความเสียหายจากสารก่อกลายพันธุ์ (mitomycin C, MMC) ได้ 63.73±5.62 เปอร์เซ็นต์ และ 49.25±4.85 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และที่ความเข้มข้น 100 – 500 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร สามารถเหนี่ยวนำให้เกิด apoptosis ในเซลล์มะเร็ง HCT116 ได้ สำหรับสารสกัดของเห็ดหลินจือ เห็ดออรินจิ เห็ดหอม พบว่าเห็ดหลินจือ (มีปริมาณกรดกาโนเดริค Ganoderic acid 5.284 กรัมต่อ 100 กรัมสารสกัด) มีศักยภาพสูงที่สุด โดยสามารถยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งทั้ง 5 ชนิดดังกล่าวได้ สามารถยับยั้งการเกิดความเสียหายต่อ DNA จากสาร MMC ได้ 64.84 เปอร์เซ็นต์ และสามารถเหนี่ยวนำการตายจากภายในเซลล์ที่เรียกว่า อะพอพโทซิส (apoptosis) ในเซลล์มะเร็ง HCT116 ด้วย ข้อมูลผลการทดสอบที่ได้ดังกล่าว จึงคัดเลือกสารออกฤทธิ์เชิงหน้าที่จากโพรไบโอติก L. paracasei TISTR 2688 และ L. rhamnosus TISTR 2716 และเห็ดหลินจือ เพื่อใช้เป็นองค์ประกอบสำคัญ (active ingredients) ในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเชิงหน้าที่เพื่อสุขภาพที่รับผิดชอบโดยแผนงานย่อยในกลุ่มวิจัยปลายน้ำ (แผนงานย่อยที่ 10-13) ต่อไป
ไม่มีรายการทางกายภาพสำหรับระเบียนนี้
There are no comments on this title.