การผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานด้วยเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่น = Production of jet fuel by gasification technology / Borisut Chantrawongphaisal [et al.] (CONFIDENTIAL)
โดย: Borisut Chantrawongphaisal
ผู้แต่งร่วม: Borisut Chantrawongphaisal | Pattanan Naghpinit | Pichai Wongharn | Pravit Thapnui | Phongsak Hongcharoensri | Napaporn Chancharoenlap | Chotika Kongsomboon | บริสุทธิ์ จันทรวงศ์ไพศาล | พัทธนันท์ นาถพินิจ | พิชัย วงศ์หาญ | ประวิทย์ เทพนุ้ย | พงษ์ศักดิ์ หงส์เจริญศรี | นภพร ชาญเจริญลาภ | โชติกา คงสมบูรณ์
BCG: สิ่งแวดล้อม TRM: พลังงานและสิ่งแวดล้อม ข้อมูลการพิมพ์: Pathumthani : Thailand Institute of Scientific and Technological Research, 2024 รายละเอียดตัวเล่ม: 55 p. : ill., tables ; 30 cm.ชื่อเรื่องอื่นๆ: โครงการวิจัยที่ ภ. 57-08 ชุดโครงการการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพสำหรับอากาศยาน
หัวเรื่อง: น้ำมันอากาศยาน | ชีวมวล | แก็สซิฟิเคชันสาระสังเขป: Experimental study on the production of jet fuel from biomass using gasification technology. By using carbon monoxide and hydrogen as a gas model. Iron was coated on aluminum support (Fe/Al2O3) as catalysts for the transformation of gas form into liquid fuels in the form of hydrocarbon and oxygenated compounds. It was found that the use of monolithic catalyst with ratio of the substrate carbon monoxide (CO) and hydrogen (H2) as 1 per 4 under the temperature 300 ºC, pressure 15 bar and catalyst dosage of 40 80 and 120 g in run time for 6 hours. Its change to methane. The amount of catalyst at 80 grams makes the most appropriate and then 120 and 40 grams. It can be converted into hydrocarbon compounds by 74.17, 56.76 and 47.09 percent, respectively. However, the single metal catalyst cannot be transformed into liquid hydrocarbon compound. In addition, bimetallic catalysts (Co/Al2O3) with Iron base catalyst) can formed liquid hydrocarbon compounds with the ratio of the substrate carbon monoxide (CO) and hydrogen (H2) is 1 per 1 at temperature 240 ºC, pressure of 10 bar and 85 g of Co/Al2O3 catalyst and iron base 10 grams in run time for 6 hours. It was found that the catalyst is the main parameter to produce the synthetic crude oil. The crude oil containing 44.35 percent carbon up to 84.21 percent and hydrogen 10.72 percent to 15 percent, high heat 7857.22 to 10724.8 kcal/kg, while diesel oil in commercial has a high heating value 10166 kcal/kg. Finally, it is possible that this crude oil can be distilled, and refined to improve the quality and classify the type of the oil.สาระสังเขป: จากการทดลองศึกษากระบวนการผลิตน้ำมันอากาศยานจากชีวมวลด้วยเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชัน โดยใช้ตั้งต้นคาร์บอนมอนอไซด์ และแก๊สไฮโดรเจนเป็นแก๊สโมเดล สารเร่งปฏิกิริยาเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อการเปลี่ยนรูปสารตั้งต้นแก๊สไปเป็นเชื้อเพลิงเหลวในรูปสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและออกซิเจนเนต พบว่าการใช้สารเร่งปฏิกิริยาที่เป็นโลหะเชิงเดี่ยว (monometallic) เหล็กบนตัวรองรับอะลูมินา (Fe/Al2O3) อัตราส่วนของสารตั้งต้น คาร์บอนมอนอไซด์ (CO) และแก๊สไฮโดรเจน (H2) เป็น 1ต่อ 4 ที่อุณหภูมิ 300 องศาเซลเซียส ความดัน 15 บาร์ และปริมาณสารเร่งปฏิกิริยา 40 80 และ 120 กรัม ในเวลา 6 ชั่วโมง สามารถเปลี่ยนเป็นมีเทนได้ ซึ่งปริมาณสารเร่งปฏิกิริยาที่ 80 กรัม ทำให้สารตั้งต้นคาร์บอนมอนอไซด์ และแก๊สไฮโดรเจน เข้าทำปฏิกิริยาได้เหมาะสมที่สุด โดยสามารถเปลี่ยนเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนได้ร้อยละ 74.17 รองลงมาที่ปริมาณ 120 และ 40 กรัม ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนได้ร้อยละ 56.76 และ 47.09 ตามลำดับ แต่สารเร่งปฏิกิริยาที่เป็นโลหะเชิงเดี่ยวไม่สามารถเปลี่ยนรูปเป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนโมเลกุลใหญ่ คือมีคาร์บอนมากกว่า 6 ตัว หรือในรูปน้ำมันได้ นอกจากนี้พบว่าสารเร่งปฏิกิริยาโลหะผสม (bimetallic) ที่มีต่อการเกิดสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ใช้สารเร่งปฏิกิริยา โคบอลต์บนตัวรองรับอะลูมินา (Co/Al2O3) กับสารเร่งปฏิกิริยาเหล็กเบด โดยใช้อัตราส่วนของสารตั้งต้น คาร์บอนมอนอไซด์ (CO) และแก๊สไฮโดรเจน (H2) เป็น 1 ต่อ 1 ที่อุณหภูมิ 240 องศาเซลเซียส ความดัน 10 บาร์ และปริมาณสารเร่งปฏิกิริยา Co/Al2O3 ปริมาณ 85 กรัม และเหล็กเบดปริมาณ 10 กรัม ในเวลา 6 ชั่วโมง พบว่าสารเร่งปฏิกิริยาโลหะผสมดังกล่าวให้น้ำมันดิบสังเคราะห์ได้ และน้ำมันดิบที่มีองค์ประกอบของคาร์บอนร้อยละ 44.35 ถึงร้อยละ 84.21 และไฮโดรเจนร้อยละ 10.72 ถึงร้อยละ 15 ค่าความร้อนสูง 7857.22 ถึง 10724.8 กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัม ในขณะที่น้ำมันดีเซลในเชิงพาณิชย์มีค่าความร้อน 10,166 กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัม จึงเป็นไปได้ที่น้ำมันดิบสังเคราะห์ที่ได้นี้สามารถนำไปกลั่นแยกชนิดของเชื้อเพลิงและปรับปรุงคุณภาพเพื่อให้ได้น้ำมันอากาศยาน.
ไม่มีรายการทางกายภาพสำหรับระเบียนนี้
Click on an image to view it in the image viewer
There are no comments on this title.