การทดสอบทางคลินิกในอาสาสมัครเพื่อประเมินประสิทธิผลความกระจ่างใสและเยาว์วัยและความปลอดภัยของกลุ่มผลิตภัณฑ์เวชสำอางอนุภาคนาโนจากสารแสดงฤทธิ์ในพืชและจุลินทรีย์ = Clinical studies on efficacy and safety of various nano cosmeceutical products for skin radiance and youthfulness from active ingredients in plants and microorganisms in volunteers / Thachanok Muangman [et al.]

โดย: Thachanok Muangman
ผู้แต่งร่วม: Thachanok Muangman | Prapaipat Klungsupya | Worawan Tiatragoon | Pattravee Thong-on | Intira Pathtubtim | Nantaporn Pinnak | ธัญชนก เมืองมั่น | ประไพภัทร คลังทรัพย์ | วรวรรณ เตียตระกูล | ภัทราวีร์ ทองอ่อน | อินทิรา เพชรทับทิม | นันทพร ปิ่นนาค
Language: Thai ชื่อชุด: Res. Proj. no.63-05, Sub Proj. no. 2; no.1 (Final report)ข้อมูลการพิมพ์: Pathumthani : Thailand Institute of Scientific and Technological Research, 2021 รายละเอียดตัวเล่ม: 84 p. 30 cm.ชื่อเรื่องอื่นๆ: โครงการวิจัยที่ ภ.63-05 การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เวชสําอางอนภุาคนาโนเพื่อความกระจ่างใสและเยาว์วัยจากสารชีวภาพในพืชและจุลินทรีย์พร้อมการประเมินผลทางคลินิคหัวเรื่อง: เวชสำอาง | nano-cosmeceuticalสารสนเทศออนไลน์: Click here to access Full-text สาระสังเขป: The purpose of this project is to evaluate safety and efficacy of four nano-cosmeceutical products containing different active ingredients from plants and microorganisms in volunteers. The test products are Tamarina Nano Serum, INNO Coenzyme Q10 Eye Gel, INNO Beta Glucan Sleeping Mask and GAC Night Cream. The skin clinical protocols of these products were designed and approved by the Ethics Committee, Institute of Dermatology, Department of Medicine, Ministry of Public Health. The skin evaluation criteria are based on skin brightening and wrinkle reduction in volunteers comparing between before and after applications. All products were tested for skin irritation using single patch test for 48 hours in all volunteers. The efficacy of each product was evaluated dermatologists on skin images taken by various skin analyzers including VISIA, ANTERA 3D, Corneometer, Maximameter and Skin Hydration Meter. The indicators of evaluation are skin wrinkles, melanin spots (dark, brown, UV) and skin moisturizing factor before and after use of each product at 4 and 8 weeks. Results of patch test indicated a non-irritating activity of all 4 products. The efficacy of Tamarina Nano Serum in 33 volunteer showed a reduction in UV spots and wrinkles on treatment group, but not significantly different from the control group. It was found that 19 volunteers received the INNO Coenzyme Q10 Eye Gel exhibited a signiificant eye lateral canthus anti-wrinkle activity compared with volunteers of control group. The results from 5 volunteer treated with INNO Beta Glucan Sleeping Mask showed an increase in skin moisture with in 1 hour after applying compared with control group. Despite a long term treatment, 39 volunteers with INNO Beta Glucan Sleeping Mask did not affect on skin moisture and skin color when compared between treated and control groups. Results from 26 volunteers treated with GAC Night Cream significantly exhibits dark spots decreasing activity, but not anti-wrinkle activity. Regarding current clinical results obtained in this study, it can be concluded that the Tamarina Nano Serum and GAC Night Cream products exhibit antiUV and dark spots activities after using for 8 and 4 weeks, respectively. The INNO Coenzyme Q10 Eye Gel product shows a potent effect against eye lateral canthus wrinkle after treated for 8 weeks. The INNO Beta Glucan Sleeping Mask possesses a strong effect on improvement of skin moistening, but prolong only 1 hour.สาระสังเขป: โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ในการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิผลทางคลินิกของผลิตภัณฑ์เวชสำอางอนุภาคนาโนจากสารแสดงฤทธิ์ในพืชและจุลินทรีย์ในอาสาสมัคร โดยมีกระบวนการวิจัยและการออกแบบการทดสอบเป็นไปตามคณะกรรมการจริยธรรมการทดลองในมนุษย์ของสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข การประเมินประสิทธิผลหลักของโครงการคือการทดสอบประสิทธิภาพในการให้ความกระจ่างใสและลดริ้วรอยของผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัครก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ทดสอบคือ ซีรัมบำรุงผิวหน้าจากสารโปรแอนโทไซยานิดิน (Tamarina Nano Serum), เจลบำรุงผิวรอบดวงตาจากโคเอนไซม์คิวเทน (INNO Coenzyme Q10 Eye Gel), มาร์กบำรุงผิวหน้าจากบีตา-กลูแคน (INNO Beta Glucan Sleeping Mask) และครีมบำรุงผิวหน้าจากสารแอลฟา-โทโคฟีรอล (GAC Night Cream) ทำการประเมินความปลอดภัยการระคายเคืองของผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ชนิด ด้วยวิธีการทดสอบการสัมผัสของผลิตภัณฑ์ผ่านแผ่นแปะบริเวณผิวหนัง (Single Patch test) เป็นเวลา 48 ชั่วโมง และสังเกตุการระคายเคืองที่เกิดขึ้นต่อผิวหนัง และทำการทดสอบประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ โดยการวิเคราะห์สภาพผิวหน้าด้วยเครื่องถ่ายภาพผิวหนังที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนัง (VISIA, ANTERA 3D, corneometer, Maximameter, Skin Hydration meter) โดยการวัดค่าริ้วรอย (wrinkle) จุดเม็ดสีผิว (dark spots, brown spots, UV spots) และ ความชุ่มชื้นใต้ผิวหนัง (moisturizing) บริเวณผิวหน้าของอาสาสมัคร หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ซีรัมบำรุงผิวหน้าจากสารโปรแอนโทไซยานิดิน เจลบำรุงผิวรอบดวงตาจากโคเอนไซม์คิวเทน และ มาร์กบำรุงผิวหน้าจากบีตา-กลูแคน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าจากสารแอลฟา-โทโคฟีรอล เป็นเวลา 4 สัปดาห์ และ ผลจากการประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ชนิด พบว่า ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองในผิวหนังของอาสาสมัคร ผลการทดสอบผลิตภัณฑ์ซีรัมบำรุงผิวหน้าจากสารโปรแอนโทไซยานิดิน ในอาสาสมัคร จำนวน 33 ราย พบว่า มีการลดลงของเม็ดสีที่ตอบสนองต่อรังสียูวี (UV spots) เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม แต่อย่างไรก็ตามการแปลี่ยนแปลงไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ไม่ก่อให้เกิดอัตราการลดลงของริ้วรอย ผลการทดสอบผลิตภัณฑ์เจลบำรุงผิวรอบดวงตาจากโคเอนไซม์คิวเทน ในอาสาสมัครจำนวน 19 ราย พบว่า กลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มีอัตราการลดลงของริ้วรอยบริเวณหางตา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม ผลการทดสอบของผลิตภัณฑ์มาร์กบำรุงผิวหน้าจากบีตา-กลูแคนในอาสาสมัครจำนวน 5 ราย พบว่าอาสาสมัครที่ใช้ผลิตภัณฑ์มีอัตราความชุ่มชื้นของผิวหนังที่เพิ่มขึ้นและมีค่าความชุ่มชื้นมากกว่ากลุ่มควบคุมเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง แต่จากการทดสอบในระยะยาวในอาสาสมัครจำนวน 39 ราย พบว่าผลิตภัณฑ์มีผลต่ออัตราการเพิ่มขึ้นของความชุ่มชื้นน้อยกว่ากลุ่มควบคุมแต่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสีผิว ในขณะที่ผลการทดสอบผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าจากสารแอลฟา-โทโคฟีรอลในอาสาสมัครจำนวน 26 ราย ก่อให้เกิดการลดลงของเม็ดสีผิวดำ (dark spots) มากกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ในการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิผลทางคลินิกของผลิตภัณฑ์เวชสำอางอนุภาคนาโนจากสารแสดงฤทธิ์ในพืชและจุลินทรีย์ในอาสาสมัคร โดยมีกระบวนการวิจัยและการออกแบบการทดสอบเป็นไปตามคณะกรรมการจริยธรรมการทดลองในมนุษย์ของสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข การประเมินประสิทธิผลหลักของโครงการคือการทดสอบประสิทธิภาพในการให้ความกระจ่างใสและลดริ้วรอยของผลิตภัณฑ์ในอาสาสมัครก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ทดสอบคือ ซีรัมบำรุงผิวหน้าจากสารโปรแอนโทไซยานิดิน (Tamarina Nano Serum), เจลบำรุงผิวรอบดวงตาจากโคเอนไซม์คิวเทน (INNO Coenzyme Q10 Eye Gel), มาร์กบำรุงผิวหน้าจากบีตา-กลูแคน (INNO Beta Glucan Sleeping Mask) และครีมบำรุงผิวหน้าจากสารแอลฟา-โทโคฟีรอล (GAC Night Cream) ทำการประเมินความปลอดภัยการระคายเคืองของผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ชนิด ด้วยวิธีการทดสอบการสัมผัสของผลิตภัณฑ์ผ่านแผ่นแปะบริเวณผิวหนัง (Single Patch test) เป็นเวลา 48 ชั่วโมง และสังเกตุการระคายเคืองที่เกิดขึ้นต่อผิวหนัง และทำการทดสอบประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ โดยการวิเคราะห์สภาพผิวหน้าด้วยเครื่องถ่ายภาพผิวหนังที่ได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนัง (VISIA, ANTERA 3D, corneometer, Maximameter, Skin Hydration meter) โดยการวัดค่าริ้วรอย (wrinkle) จุดเม็ดสีผิว (dark spots, brown spots, UV spots) และ ความชุ่มชื้นใต้ผิวหนัง (moisturizing) บริเวณผิวหน้าของอาสาสมัคร หลังจากการใช้ผลิตภัณฑ์ซีรัมบำรุงผิวหน้าจากสารโปรแอนโทไซยานิดิน เจลบำรุงผิวรอบดวงตาจากโคเอนไซม์คิวเทน และ มาร์กบำรุงผิวหน้าจากบีตา-กลูแคน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าจากสารแอลฟา-โทโคฟีรอล เป็นเวลา 4 สัปดาห์ และ ผลจากการประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ชนิด พบว่า ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองในผิวหนังของอาสาสมัคร ผลการทดสอบผลิตภัณฑ์ซีรัมบำรุงผิวหน้าจากสารโปรแอนโทไซยานิดิน ในอาสาสมัคร จำนวน 33 ราย พบว่า มีการลดลงของเม็ดสีที่ตอบสนองต่อรังสียูวี (UV spots) เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม แต่อย่างไรก็ตามการแปลี่ยนแปลงไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ไม่ก่อให้เกิดอัตราการลดลงของริ้วรอย ผลการทดสอบผลิตภัณฑ์เจลบำรุงผิวรอบดวงตาจากโคเอนไซม์คิวเทน ในอาสาสมัครจำนวน 19 ราย พบว่า กลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มีอัตราการลดลงของริ้วรอยบริเวณหางตา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม ผลการทดสอบของผลิตภัณฑ์มาร์กบำรุงผิวหน้าจากบีตา-กลูแคนในอาสาสมัครจำนวน 5 ราย พบว่าอาสาสมัครที่ใช้ผลิตภัณฑ์มีอัตราความชุ่มชื้นของผิวหนังที่เพิ่มขึ้นและมีค่าความชุ่มชื้นมากกว่ากลุ่มควบคุมเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง แต่จากการทดสอบในระยะยาวในอาสาสมัครจำนวน 39 ราย พบว่าผลิตภัณฑ์มีผลต่ออัตราการเพิ่มขึ้นของความชุ่มชื้นน้อยกว่ากลุ่มควบคุมแต่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสีผิว ในขณะที่ผลการทดสอบผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้าจากสารแอลฟา-โทโคฟีรอลในอาสาสมัครจำนวน 26 ราย ก่อให้เกิดการลดลงของเม็ดสีผิวดำ (dark spots) มากกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่มีอัตราการลดลงของริ้วรอยน้อยกว่ากลุ่มควบคุม จากผลการทดสอบประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ ทั้ง 4 ชนิด สรุปได้ดังนี้ ซีรัมบำรุงผิวหน้าจากสารโปรแอนโทไซยานิดิน (Tamarina Nano Serum) และ ครีมบำรุงผิวหน้าจากสารแอลฟา-โทโคฟีรอล (GAC Night Cream) เป็นระยะเวลา 8 และ 4 สัปดาห์ มีผลในการลดการเกิดเม็ดสีที่ตอบสนองต่อรังสียูวี (UV spots) และ เม็ดสีผิวดำ (dark spots) ตามลำดับ และ เจลบำรุงผิวรอบดวงตาจากโคเอนไซม์คิวเทน (INNO Coenzyme Q10 Eye Gel) สามารถช่วยลดริ้วรอยบริเวณหางในอาสาสมัครเอใชเป็นเวลา 8 สัปดาห์ และมาร์กบำรุงผิวหน้าจากบีตา-กลูแคน (INNO Beta Glucan Sleeping Mask) สามารถก่อให้เกิดการเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนังเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง
    Average rating: 0.0 (0 votes)
ไม่มีรายการทางกายภาพสำหรับระเบียนนี้

There are no comments on this title.

to post a comment.
    Thailand Institute of Scientific and Technological Research
    35 Mu 3 Technopolis, Tambon Khlong Ha, Amphoe Khlong Luang, Pathum Thani 12120
    ☎ 0 2577 9000, 0 2577 9300