การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มสำหรับวัยเด็ก = The research and development of uht milk for children
โดย: Supaporn Lekhavat [et al.] (CONFIDENTIAL)
ผู้แต่งร่วม: Supaporn Lekhavat | Panida Banjongsinsiri | Nowwapan Noojuy | Ubolwanna Srimongkoluk | ปนิดา บรรจงสินศิริ | สุภาภรณ์ เลขวัต | เนาวพันธ์ หนูจุ้ย | อุบลวรรณา ศรีมงคลลักษณ์
Language: tta ชื่อชุด: Res. Proj. no. 56-45, Rep. no. 1 (Final report)ข้อมูลการพิมพ์: Pathumthani Thailand Institute of Scientific and Technological Research 2016 รายละเอียดตัวเล่ม: tables, ill. 30 cm.ชื่อเรื่องอื่นๆ: โครงการบริการวิจัยที่ บ.56-45 การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มสำหรับวัยเด็กหัวเรื่อง: นมพร้อมดื่มยูเอชที | UHT milkสาระสังเขป: The Food Technology Department, Thailand institute and Scientific and Technological Research (TISTR) developed UHT milk for children on a laboratory scale, which contains functional ingredients such as DHA, choline, lutein and mixed vitamins that enhance human brain and eyes. Pasteurized and UHT milks were chosen as raw material for development on a laboratory scale to select appropriate functional ingredients and flavors. Sensory evaluation was performed with both internal and external testers to choose a suitable recipe. It was found that plain UHT milk and sweet UHT milk with vanilla flavor were accepted. Both recipes were tested on a semi-pilot scale at DPO's laboratory for determination of functional ingredient contents in the product after UHT process. The results showed that DHA and three types of fatty acid content found in the tested product were nearly close to that of the Foremost brand. Besides, the tested product contains choline and lutein, which were not found in the Foremost brand. According to consumer's ratings, it was found that plain milk achieved the highest ratings of 81% from target group, while sweet milk was received 78.57%.After a pilot study run at SIG, Rayong province, it was found that some functional ingredients such as DHA and lutein were lost during UHT process, except choline, probably because some natural choline was found in cow milk. As regards the nutritional value of the tested product, it appeared that both plain and sweet milks contain more vitamin A and vitamin B2 than the Foremost brand, recommended by Thai Recommended Daily Intake (Thai RDI). In addition, there are more choline and lutein over 128-133 and 0.39-0.49 mg./ unit of consumption. Moreover, the product also contains 25% higher level of vitamin A, B1, B2, B6, B12 and calcium compared to Thai RDI recommendation. The plain UHT milk with flavors obtained an average score for color (4.05), odor (4.48), taste (4.20) and over all liking (4.21) which was in the range from "preferable to most preferable" score. In contrast, the UHT milk with no flavor received lower rating than the flavor one (P<0.05). The flavor UHT milk was accepted more than 81.25% of consumer. Material cost is approximately 5.04 Baht/ 200 ml, which labor cost, manufacturing overhead and package cost excluded.สาระสังเขป: ฝ่ายเทคโนโลยีอาหาร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้พัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มยูเอชทีสำหรับวัยเด็กในระดับห้องปฏิบัติการ ที่มีส่วนผสมของสารฟังก์ชันนัล ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงระบบสมองและสายตา ได้แก่ สารดีเอชเอ, โคลีน, ลูทีน และวิตามินรวม ในขั้นตอนการพัฒนาในระดับปฏิบัติการได้เลือกใช้นมพาสเจอไรส์และนมยูเอชทีเป็นวัตถุดิบเริ่มต้น เพื่อทำการคัดเลือกสารฟังก์ชันนัลและสารปรุงแต่งกลิ่นรสที่มีความเป็นไปได้และเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะทำการคัดเลือกสูตรเบื้องต้นโดยประเมินจากผลการทดสอบทางประสาทสัมผัสจากผู้ทดสอบชิมภายใน วว. และผู้ทดสอบภายนอก ทั้งนี้ สูตรที่มีความเป็นไปได้และได้รับการยอมรับ คือ นมสูตรรสจืดและรสหวานกลิ่นวานิลลา ซึ่งจะนำมาทำการทดลองผลิตในระดับกึ่งโรงงานที่ห้องปฏิบัติการวิจัย อ.ส.ค. เพื่อตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารฟังก์ชันนัลที่มีในผลิตภัณฑ์หลังผ่านกระบวนการยูเอชที ผลการทดลอง พบว่า ปริมาณสาร DHA และกรดไขมันทังสามชนิดของผลิตภัณฑ์นมทดลองมีค่าใกล้เคียงกับนมยี่ห้อโฟร์โมสต์ และมีสารโคลีนและลูทีน ซึ่งผลิตภัณฑ์โฟร์โมสต์ไม่มี และผลทดสอบทางการตลาดกับผู้บริโภค พบว่า นมรสจืดได้รับการยอมรับจากกลุ่มเป้าหมายสูงถึงร้อยละ 81 และนมรสหวานได้รับการยอมรับจากกลุ่มเป้าหมายสูงถึง ร้อยละ 78.57. ในการทดลองผลิตระดับโรงงานที่ SIG จังหวัดระยอง ผลการวิเคราะห์ทางคุณค่าโภชนาการพบว่า นมยูเอชทีทั้งสองรสชาติมีปริมาณวิตามิน A และ B2 อ้างอิงตาม RDI ที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์อ้างอิง (นมโฟร์โมสต์) และมีโคลีนและลูทีนสูงถึง 128-133 และ 0.39-0.49 มิลลิกรัม ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ทั้งนี้มีปริมาณววิตามิน A, B1, B2, B6, B12 และแคลเซียมสูงกว่า ร้อยละ 25 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับคนไทย (Thai RDI) นมรสจืดสูตรที่ได้รับการยอมรับคุณภาพทางประสาทสัมผัสเมื่อนำไปทดสอบกับผู้บริโภคภายนอก คือ สูตรที่มีการเติมสารปรุงแต่งกลิ่นรส โดยได้รับคะแนนเฉลี่ยการยอมรับในคุณลักษณะด้านสี (4.05), กลิ่น (4.48), รสชาติ (4.20) และความชอบรวม (4.21) อยู่ในช่วงชอบถึงชอบมากที่สุด ซึ่งสูงกว่าตัวอย่างนมสูตรที่ 2 ที่ไม่ได้มีการใส่สารปรุงแต่งกลิ่นรสอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ทดสอบชิมสูงถึง ร้อยละ 81.25 ทั้งนี้ มีต้นทุนค่าวัตถุดิบโดยประมาณ 5.04 บาท ต่อหน่วยบรรจุ 200 มิลลิกรัม ไม่รวมค่าแรง ค่าการผลิตและค่าภาชนะบรรจุ.
ไม่มีรายการทางกายภาพสำหรับระเบียนนี้
There are no comments on this title.