การเปรียบเทียบอัตราการสึกกร่อนของโลหะทำภาชนะบรรจุสับปะรดจากสารละลายสับปะรดกระป๋องที่สภาวะต่าง ๆ = corrosion rate and its effect on pineapple tin can / Ladawal Chotmongkol...[et al.]
ผู้แต่งร่วม: Chotimongkol, Ladawal
| Chutivanitchayakul, Nongyaw | Masuthon, Sutipa | Migasena, Pakomthep | ลดาวัลย์ โชติมงคล | นงเยาว์ ชุติวณิชยกุล | สุทิพา มาสุธน | ผคมเทพ มิคะเสน | Thailand Institute of Scientific and Technological Research Metals and Materials Technology Department
Language: Thai ชื่อชุด: Res. Proj. no. 31-02 ; Rep. no. 1ข้อมูลการพิมพ์: Bangkok : Thailand Institute of Scientific and Technological Research, 1989 รายละเอียดตัวเล่ม: 91 p.ชื่อเรื่องอื่นๆ: การเปรียบเทียบอัตราการสึกกร่อนของโลหะทำภาชนะบรรจุสับปะรดจากสารละลายสับปะรดกระป๋องที่สภาวะต่าง ๆหัวเรื่อง: Canned fruit | Corrosion and anti-corrosives | Pineapple tin canสารสนเทศออนไลน์: Click here to access full-text สาระสังเขป: Corrosion rates of pineapple can were studied under various conditions of syrup concentration, pH and temperature. The corrosion rates from 4 different types of pinapple products--slice, chunk, tidbit and juice--were between 2.60-74.60 mdd. The study of corrosion rates of tin coating steel used for pineapple can was also conducted in the syrup standard solution of 14-26 Brix, pH 3-6, and temperature between 10-70 degree celsius, and the corroion rates of 0.50-209.35 mdd were obtained. The results showed that the rate of corrosion always increased with increasing temperature and decreased with increasing syrup concentration. However, the increasing rate of corrosion was slower in the syrup of dilute acid than in concentrate acid and nitrate content. Authorsสาระสังเขป: This project was undertaken to investigate the corrosion rate of pienapple can in various conditions.สาระสังเขป: โครงการศึกษาเปรียบเทียบอัตราการสึกกร่อนของโลหะที่ใช้ทำภาชนะบรรจุสับปะรดจาก สารละลายสับปะรดกระป๋องที่สภาวะต่างๆ ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม, สำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม. ได้ทำการทดลองวัดอัตราการสึกกร่อนของเหล็กเคลือบดีบุกที่ใช้เป็นภาชนะบรรจุสับปะรดชนิดต่างๆ จากตัวอย่างที่ขายอยู่ในท้องตลาด คือ สับปะรดกระป๋องชนิดเต็มแว่น, ชนิดชิ้นคละ, ชนิดชิ้นย่อยและน้ำสับปะรด โดยการวัดความหวาน, ความเป็นกรดด่าง และบันทึกอุณหภูมิขณะที่ทำการทดลอง. พบว่ามีค่าอัตราการสึกกร่อนอยู่ในช่วง 2.60-74.68 mdd, และนำไปเปรียบเทียบกับการสึกกร่อนของแผ่นเหล็กเคลือบดีบุกมาตรฐาน ที่ใช้ในการทำภาชนะบรรจุสับปะรดกระป๋องในสารละลายที่เตรียมขึ้นเองในสภาวะความหวานจาก 14 ถึง 26o Brix, ความเป็นกรดด่าง pH3 ถึง 6, และอุณหภูมิระหว่าง 10-70oซ. พบว่ามีค่าอัตราการสึกกร่อนอยู่ในช่วง 0.50-209.35 mdd. สารละลายที่มีสภาพเป็นกรด pH = 3 และ pH = 4 อัตราการสึกกร่อนจะเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น และลดลงตามร้อยละของความหวานที่มากขึ้น. สารละลายในสภาพที่เป็นกรดอ่อนลงคือ pH = 5 และ pH = 6 จะมีอัตราการสึกกร่อนเพิ่มขึ้น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น, และอัตราการสึกกร่อนค่อนข้างจะมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก เมื่อร้อยละของความหวานมากขึ้น. นอกจากนี้อัตราการสึกกร่อนยังขึ้นกับปริมาณไนเตรตที่เติมและค่าความเป็นกรดด่าง โดยมีค่ามากขึ้นเมื่อปริมาณไนเตรตและความเป็นกรดที่เพิ่มขึ้น. -ผู้แต่ง.
| ชนิดของทรัพยากร | Location | Call number | สถานะ | Last seen | Copy No. | บาร์โค้ด |
|---|---|---|---|---|---|---|
|
วว. เทคโนธานี | Available | 2018-08-31 | 1 | RP1989/827 | |
|
|
วว. เทคโนธานี | Available | 2018-08-31 | 2 | RP1989/827-2 |
There are no comments on this title.